วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2552

มารู้จัก TOEFL กันดีกว่า

ถ้าพูดถึง TOEFL ล่ะก็ คงทำเอาน้องๆ หลายคนขนลุกกันแน่นอน (TOEFL หรือผีเนี่ย - -" ) เพราะอะไรนะหรอ ก็เพราะมัน ยากก็ยาก แพงก็แพง ถ้าคะแนนไม่ดี จะสอบใหม่ก็เปลืองแสนเปลือง เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เห็นตามสถาบันต่างๆ เปิดคอร์สเตรียมสอบ TOEFL และมีคนเรียนอย่างคึกคัก ทั้งๆ ที่ค่าเรียนก็ไม่ใช่ถูกๆ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับการสอบ TOEFL กันให้มากขึ้นดีกว่าค่ะ

เด็กดีดอทคอม :: รู้จัก TOEFL กันดีพอแล้วหรือ ?; tags: toefl, toeic, IBT, ielts, cu-tep, sat ,tu-get,เรียนต่อเมืองนอก, เรียนนอก, โทเฟล, โทอิก


TOEFL หรือ The Test of English as a Foreign Language เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ เริ่มสอบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1964 ซึ่งการสอบในอดีตนั้น มี 2 แบบคือ

- Paper-Based testing หรือ PBT คือ การสอบที่ใช้กระดาษในการทำข้อสอบ มีคะแนนตั้งแต่
310-677 คะแนน
- Computer-Based Testing หรือ CB คือ การสอบที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการทำข้อสอบ
มีคะแนนตั้งแต่ 0-300 คะแนน

แต่ในปัจจุบัน การสอบทั้ง 2 แบบข้างต้นนั้นได้ถูกยกเลิกไปแล้ว โดยปัจจุบันได้ใช้ Internet-Based Testing : IBT หรือ การสอบที่ใช้อินเตอร์เน็ตในการทำข้อสอบแทน ใช้เวลาในการสอบประมาณ 4 ชั่วโมง ทดสอบทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน คือ การอ่าน (Reading) การฟัง (Listening) การพูด (Speaking) และการเขียน (Writing) แต่ละพาร์ทมีคะแนน 0-30 คะแนน
รวมคะแนนเต็ม 120 คะแนน

เด็กดีดอทคอม :: รู้จัก TOEFL กันดีพอแล้วหรือ ?; tags: toefl, toeic, IBT, ielts, cu-tep, sat ,tu-get,เรียนต่อเมืองนอก, เรียนนอก, โทเฟล, โทอิก


การอ่าน (Reading)

- อ่านบทความ 3-5 บทความ ประมาณ 700 คำ แล้วตอบคำถาม รวมคำถามทั้งหมด 39 ข้อ โดยบทความ
นั้นเป็นเนื้อหาที่สามารถพบได้ในหนังสือเรียนระดับปริญญาตรี เน้นความเป็นเหตุเป็นผล การเปรียบเทียบ
และการโต้แย้ง

**ตอบคำถามบนจอคอมพิวเตอร์**


การฟัง (Listening)

- ประกอบด้วยข้อสอบ 2 แบบ คือ
1. Academic Lecture หรือ การจำลองสถานการณ์ในห้องเรียน 4 เรื่อง จำนวนคำถาม 24 ข้อ
2. Student Conversation หรือ บทสนทนา 2 เรื่อง จำนวนคำถาม 10 ข้อ

**ฟังบทสนทนาทั้งหมดทางหูฟัง**


การพูด (Speaking)

- ประกอบด้วยข้อสอบ 3 ประเภท คือ
1. Independent 2 ข้อ โดยผู้สอบจะได้ฟังเรื่องราว ประสบการณ์ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวและคุ้นเคย
จากนั้นจะต้องตอบคำถาม โดยมีเวลาในการเตรียมตัวตอบคำถาม 15 วินาที และมีเวลาในการตอบ
คำถาม 45 วินาที

2. Integrated Reading + Listening 2 ข้อ โดยผู้สอบจะต้องอ่านบทความสั้นๆ จากนั้นจะต้องฟัง
บทสนทนาหรือการบรรยายในเรื่องที่เกี่ยวกับบทความที่อ่านนั้น จากนั้นจะต้องตอบคำถามจากสิ่งที่ได้อ่าน
และฟัง มีเวลาในการเตรียมตัวตอบคำถาม 30 วินาที และมีเวลาในการตอบคำถาม 1 นาที

3. Integrated Listening 2 ข้อ โดยผู้สอบจะได้ฟังบทสนทนาหรือการบรรยายทางวิชาการ และจะ
ต้องตอบคำถามจากสิ่งที่ได้ฟัง มีเวลาในการเตรียมตัวตอบคำถาม 20 วินาที และมีเวลาในการตอบ
คำถาม 1 นาที

**ผู้สอบอัดเสียงของตนเองลงบนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จากนั้นจะถูกประเมินคะแนนโดยผู้ประเมินที่เชี่ยว
ชาญ**


การเขียน (Writing)

- ประกอบด้วยข้อสอบ 2 ประเภท คือ
1. Integrated Reading + Listening 1 ข้อ โดยผู้สอบต้องอ่านบทความทางวิชาการภายในเวลา
3 นาที จากนั้นฟังการบรรยายในเรื่องที่เกี่ยวกับบทความที่อ่านนั้น และต้องสรุปเนื้อหาหรือแสดงความเห็น
ต่อสิ่งที่ได้อ่านและฟังด้วยภาษาอังกฤษ 150-220 คำ ภายในเวลา 30 นาที

2. Independent Task 1 ข้อ โดยผู้สอบจะได้อ่านประโยคหรือบทความสั้นๆ จากนั้นต้องตอบคำถาม
หรือแสดงความเห็นต่อประโยคหรือบทความที่ได้อ่านนั้นด้วยภาษาอังกฤษอย่างน้อย 300 คำ ภายในเวลา
30 นาที

**เขียนคำตอบโดยการพิมพ์ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์**


ซึ่งในการสมัครเรียนต่อเมืองนอกนั้น จะระบุคะแนนขั้นต่ำของ TOEFL ที่รับสมัคร ซึ่งทุกๆ ที่จะรับคะแนนแบบ IBT แต่บางที่ก็ยังรับคะแบบ PBT และ CBT ด้วย โดยส่วนมากมักจะรับคะแนนขั้นต่ำของ IBT ที่ 80 คะแนน โดยจะเท่ากับ 213 คะแนนของแบบ CBT และเท่ากับ 550 คะแนนของแบบ PBT ค่ะ แต่บางที่อาจจะกำหนดคะแนนขั้นต่ำไว้สูงกว่านั้น (หินมาก)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น