วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หนังสือและวรรณกรรมเก่า หายากมากกกก.......

SüdT€€®ak⌒ ❥゙

ถึง zidogang, noolex
แสดงรายละเอียด 19 ต.ค. (5 วันที่ผ่านมา)


เปิดตัวสมุดไทย "พระสุธน" วรรณกรรมสมัยอยุธยาวรรณกรรมสมัยอยุธยาที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ที่เป็นที่นิยมกันมาก ในสมัยอยุธยาและไม่ทราบผู้แต่ง ได้แก่ เรื่องพระสุธน ซึ่งได้นำเค้าเรื่องเดิมมาจาก ปัญญาสชาดก ที่เรียกว่า "สุธนชาดก" และได้นำมาทำเป็นบทละคร เรื่องนางมโนห์ราในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ตำนานพระสุธนมโนห์รา เรื่องย่อ พระเจ้าอาทิตยวงศ์ กษัตริย์แห่งเมืองปัญจาลนคร ....




เปิด ตัวสมุดไทย "ลักษณวงศ์" ของท่านกวีเอกสุนทรภู่ สมัยรัชกาลที่ 3 วรรณคดีเรื่องนี้มีมาแต่โบราณ สุนทรภู่ได้นำมาแต่งใหม่เพื่อรักษาไว้มิให้สูญหาย "ลักษณวงศ์" เป็นนิทานคำกลอนของท่านกวีเอกสุนทรภู่ เป็นเรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ ที่คนในสมัยก่อนนิยมเล่าให้ลูกหลานฟัง ตัวละครมีทั้งมนุษย์ ยักษ์ ฤาษี พิทยาธร กินรี ม้าวิเศษ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ช่วยเสริมสร้างจินตนาการได้เป็นอย่างดี ....




เปิดตัวสมุดไทย "ลิลิตพระลอ" วรรณกรรมอมตะ สมัยอยุธยาวรรณกรรม เรื่องลิลิตพระลอ นับเป็นวรรณกรรมเรื่องเอกและเป็นอมตะเป็นที่นิยมยกย่องกันมากในหมุ่นัก วรรณคดี และจัดให้เป็นยอดของลิลิตลิลิตเป็นคำประพันธ์ชนิดหนึ่งที่ใช้โคลงและร่ายต่อ สัมผัสกัน มีทั้งร่ายโคลงสี่สุภาพ โคลงสอง เป็นต้นสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ประทานอธิบายเกี่ยวกับหนังสือลิลิตพระลอไว้ในหนังสือบันทึกสมาคมวรรณคดี ปีที่ 1 ....





เปิด ตัวสมุดไทยสุภาษิตสอนสตรี ของท่านกวีเอกสุนทรภู่ สมัยรัชกาลที่ 3สุภาษิตสอนสตรีนี้ มีชื่อเรียกหลายชื่อ "สุภาษิตสอนหญิง" ก็เรียก "สุภาษิตไทย" ก็เรียก ในสมุดไทยที่ผมมีอยู่ เรียกว่า "สุภาษิต" แต่ในหนังสือ"ชีวิตและงานของสุนทรภู่" ฉบับกรมศิลปากรตรวจสอบชำระใหม่ซึ่งองค์การค้าของคุรุสภา จัดพิมพ์จำหน่าย เมื่อ พ.ศ. 2530 เรียกว่า"สุภาษิตสอนสตรี" ....




เปิด ตัวสมุดไทย "สังโยคพิธาน" แบบเรียนหนังสือไทย ในสมัยรัชกาลที่ 5 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิรูปการศึกษาของชาติ โดยจัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้น เป็นการเปิดแนวทางที่รัฐจะรับหน้าที่จัดการศึกษาแก่เยาวชน ดังเช่นที่เป็นอยู่ในขณะนี้ในการนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อยอาจารยางกูร) เมื่อครั้งยังเป็นหลวงสารประเสริฐ เรียบเรียงหนังสือชุดนี้ขึ้น ...




เปิด ตัวสมุดไทย "ประถมมาลา" แบบเรียนหนังสือไทย สมัยรัชกาลที่ 3 (ตอนที่ 3)(ต่อจากเอ็นทรี่ที่แล้ว)เพื่อให้ท่านผู้อ่านที่สนใจ ในสมุดไทย "ประถมมาลา" ที่อยากจะศึกษาค้นคว้าในรายละเอียด ได้นำไปศึกษาค้นคว้า จึงได้ถ่ายภาพแต่ละหน้ามานำเสนอ ณ ที่นี้ แบบเต็มไม่ได้ตัดทอน โดยแบ่งออกเป็น 2 ตอนด้วยกัน ในครั้งนี้ เป็นตอนสุดท้าย(หากท่านต้องการให้เห็นตัวอักษรใหญ่ชัดเจน กรุณาใช้ View > Z....





แนะ นำหนังสือเก่าหายาก (18) ตำราเลข ทศนิยม ร.ศ. 118 ตำราเลข ทศนิยม สำหรับ ประโยคสอง ชั้นสอง สาม พิมพ์โดยรับสั่ง พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ อธิบดีกรมศึกษาธิการ เมื่อ ร.ศ. 118 (พ.ศ. 2443) หรือประมาณ 107 ปีมาแล้ว มิสเตอร์ ดับลยู, ยี, ยอนซัน เป็นผู้แต่ง ซึ่งกล่าวไว้ในคำนำ ดังนี้ คำนำ ข้าพเจ้าแต่งตำราเลขเล่มนี้ขึ้น ....



Posted by สุรศักดิ์

ยังมีอีกหลายเล่มที่น่าสนใจค่ะ ดูได้เพิ่มเติมที่ลิงค์ด้านล่าง

http://www.oknation.net/blog/surasakc/category/A6

คนแบบไหนชอบหักอกคนอื่น

เรื่อง นอกอกนอกใจเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย เพราะอาการใจสะออน อ่อนแรง และไม่อยู่ กับเนื้อกับตัว แต่เบนทิศทางไปแสวงหาที่หมายใหม่นั้น...เป็นอะไรที่สังเกตดูดิ่ ว่าบางทีก็หาสาเหตุและเหตุผลได้ แต่หลายครั้งกลับค้นไม่เจอ เหมือนกันว่า...ทำไมต้อง "นอกใจ" กันด้วย

จึง สันนิษฐานได้อย่าง เอ๊ะแต่จริงๆ คิดได้หลายอย่าง ว่าการนอกใจน่ะ หากไม่เกิดจากความเบื่อหน่ายซึ่งกันและกันแล้วไซร้ อาจเกิดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพอเซ็งอีกข้างขึ้นมา ก็เอาแหละ ชิ่งหนีไปซบอกหรือกระแซะคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนตัวจริง, รึไม่งั้นก็ไปหาเศษหาเลยแต๊ะอั๋งเอ๊าะๆ ซะเลย เอ้าทำงี้ มันช่วยให้เลือดลมสูบฉีด แถมยังทำให้หัวใจพองโตด้วยนี่หว่า แล้วจะไม่ให้อยากไปจุ๋งจิ๋งกุ๋งกิ๋งและเกาะแกะกะคนอื่นได้ไง? แต่ที่เกริ่นมานี่ก็พูดเรื่องน้ำเน่าไปงั้น

ที่จริงน่ะอยากให้ทายกันมากกว่าว่า คนแบบไหนน้า...ที่จะทำให้ใจของท่านทั้งหลายแตกสลายเป็นเสี่ยงๆได้ ถ้าขืนไปคบกับคนอย่างงี้! โอ้โห อยากรู้กันแล้วใช่ปะ มามะ เริ่มกันที่ผู้มีพฤติกรรมเข้าข่ายต่อไปนี้ได้เลยเช่น

1. พวกที่ไม่มีเพื่อนซึ่งคบกันมาอย่างยาวนานไง
สังเกต ดูเด่ะ คนที่ไม่มีเพื่อนสนิทให้คบกันยืดยาวเลยสักคนน่ะ คนพรรค์นี้แหละมีสิทธิ์ทำคุณอกหักหรือมาหักอกคุณได้ ดังนั้น หากท่านใดบังเอิ๊ญ บังเอิญไปคบหาคนข้อนี้เป็นกิ๊กหรือแฟนเข้าละก็ มีโอกาสที่จะ ถูกเค้าทำให้เสียใจได้ ภายหลังน่ะเซ่ เฮ้อ แม้แต่เพื่อนสนิทเค้ายังไม่มีเล้ย แล้วนับประสาอะไรเค้าจะคบกับใครได้ยืด แถมบางคนน่ะแม้แต่ เพื่อนเฉยๆ ยังไม่มีด้วยซ้ำ แล้ว คนที่แม้แต่เพื่อนซึ่งไม่รู้ล่ะว่า เป็นคนเอาหรือไม่เอาเพื่อนเลยสักคนเดียว แบบนี้คิดเรอะว่า จะเป็นคนมีจิตใจอยากผูกสมัครรักใคร่กะใครแบบจริงจัง มั่นคง และรักแล้วรักเลย....คำตอบคือยาก หรือหากมีก็น้อยมาก

2. พวกจำแม่น แต่จำในสิ่งที่ไม่ควรจำเท่าไหร่นะ เพราะถ้าขี้ลืมสักนิดหรือตัดทิ้งข้อปลีกย่อยของความจำไปบ้าง ชีวิตคงดีกว่านี้แน่

อย่าว่าแต่นิสัยแบบนี้ผู้หญิงบางรายจะเป็นกันเลย แม้แต่ผู้ชายบางคนก็จู้จี้จุกจิก ขี้บ่นกันจะตาย

พวก นี้มักจำแต่สิ่งไม่ดีหรือเรื่องชั่วๆ ในอดีตของแฟนหรือคนใกล้ชิดเพื่อเอาไปปะทะคารมตอนไม่สบอารมณ์ คนใกล้ชิดไงเล่า! ส่วนสิ่งดีๆ ที่เคยมีต่อกัน..ไม่จำหรอก จำอยู่ได้ไอ้เรื่องที่เราอาจเคยพลาดพลั้งทำไม่ดีไปมั่ง ดังนั้น พอเค้าเกิดไม่พอใจขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จะเรียบเรียงสิ่งเลวๆ ที่แฟนอย่างเราๆ เคยทำเอาไว้นั้นแหละนำมาฟาดฟันกันตอนมีปากเสียงกันน่ะซี (แต่ขออุบอิบก่อนว่า ข้อนี้ไม่นับคนที่โดนแฟนทำร้ายจิตใจเป็นประจำชนิดไอ้ฝ่ายนั้นมันชั่วจริงๆ หาดีไม่ได้เลย...นะ เพราะถ้าเจอคนอย่างนี้ หรือหลวมตัวไปเป็นแฟนกะคนไม่ดีเลยสักอย่าง ก็ควรเลิกกะมันไปตั้งนานแล้ว)


3. พวกอยากมีอะไรต่อมิอะไรเป็นส่วนตัวมากๆ จะได้โชว์เดี่ยวเยอะๆ
ทั้ง อยากมีเวลาเป็นของตัวเอง แล้วยังอยากมีพื้นที่ส่วนตัวสูงเป็นดับเบิลของชีวิตคนธรรมดา นี่ก็น่าเกรงขามนักล่ะ นัยว่า ที่เค้าต้องการมีสเปซหรือพื้นที่ส่วนตัวมาก เพราะอยากไปไหนไปได้ ไปแล้วไม่มีใครเกะกะ ไม่มีใครคอยเป็นตัวถ่วงให้เค้ารำคาญใจ หงุดหงิดหัวใจและรู้สึกว่า มีใครก็ไม่รุคอยขวางลูกตากูเอ๊ยตูอยู่ได้....งั้นก็อย่าไปตอแยกะเค้าเลย เตือนนี่ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะคุณก็จะเบื่อไอ้นี่ด้วยแหละ ไม่รู้คิดว่าตัวเองวิเศษมาจากไหน?

รู้ไว้เถอะ ว่าคนที่ทำให้ใจคุณเจ็บช้ำได้น่ะ เค้าจะดีกะคุณในช่วงแรกๆ เท่านั้นแหละ แต่หลังจากนั้น ก็คิดเอาเองละกันว่า เค้าจะตัดเยื่อไม่เหลือใยกะคุณยังไง? เอ...แต่ถ้าอยากเจ็บเพราะอีกฝ่ายใจร้ายละก็ เชิญเถอะฮ้า ถ้าไม่เคยจะลองดูก็ได้....อิอิ


4. พวกไม่คำนึงถึงจิตใจคนอื่น

เรียก พวกชาเย็น ใจดำและใจยักษ์ อะไรก็ได้ ขอให้เป็นคนที่ไม่เคยคำนึงว่า คำพูดคำจาของตัวเค้าจะไปกระทบจิตใจอันอ่อนไหวของชาวบ้านชาวช่อง หรือใครๆจะสะดุ้งสะเทือนต่อคำพูดเห่ยๆ ของเค้ารึเปล่า? ก็คือคำจำกัดความของบุคคลในข้อนี้แหละ

ยิ่งหากคนคนนี้ ชอบปากเสีย หรือชอบพูดจาเสียดสี ซึ่งแสดงว่า ไม่ใช่คนมีความจริงใจกะคนอื่นเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่น่าคบมากเท่านั้น เพราะขืนรู้จักกันไปมากๆเข้า เค้าก็ยิ่งทำให้คุณผิดหวัง ผิดหวังและผิดหวังซ้ำซ้อนและลึกซึ้ง จนเจ็บลึกไปนาน...แต่คุณไม่เจ็บนานจริงๆหรอกใช่ม้า


5. พวกเวลาที่อยู่กะคุณมักใจลอยไปหาคนอื่น นี่ก็ใช่

แบบ แหม...พออยู่กะเรานะ ชอบทำใจหาย หรือเหม่อลอยไปไกลโยชน์บ่อยๆ ไงตัว ซึ่งที่จริงเค้าควรมีกะจิตกะใจอยู่กะเรามากกว่าเนอะ แต่ก็นั่นแหละ เค้าจะมีโฟกัสกะคุณเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น พอหลังจากนี้ เค้าก็ไม่สนแล้ว หันไปสนอย่างอื่นที่...

ก.เป็นสิ่งยั่วยวนจิตใจเค้าให้ไขว้เขวไปถึงไหนๆ ได้มากกว่าไม่ดีเรอะ หรือ ข.สิ่งยั่วยุใหม่ๆที่ทำให้เค้าอยากลิ้มลอง จนบางครั้งเค้าก็พลาดพลั้งจนไปเสียฟอร์มคนอื่นอีกที....555 สม...ไงล่ะ


6. พวกชอบจับผิด


ข้อ นี้แทบไม่ต้องอธิบาย เพราะพวกชอบจับผิด มักไม่เคยคิดว่าใครหน้าไหนถูกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เค้าจึงถูกตลอด ถูกเสมอ ถูกทุกเมื่อ...ไม่เบื่อที่จะเป็น "คนถูก" ซึ่งในทางตรงกันข้าม เค้าย่อมเห็นว่าคุณทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็ผิดอยู่นั่น ผิดแล้วผิดอีก แถมยังย้ำด้วยว่าคุณเป็นฝ่ายผิด ขนาดถ้าเผื่อคุยกันเรื่องเฮฮาในหมู่เพื่อนฝูงอยู่ดีๆ เค้ายังสามารถบอกได้เลยว่า คุณพูดผิด...เพราะเค้าเห็นว่าคุณผิด (แล้วเค้าถูก) นี่แหละ คุณกะเค้าถึงเข้ากันไม่ได้ แต่เค้าสามารถหักหาญน้ำใจของคุณได้...แล้วงี้จะอโหสิหรือจำไว้เอาคืนดีฮ้า?

11 ข้อคิดเกี่ยวกับเซ็กส์







การมีเพศสัมพันธ์ นอกจากเป็นวิถีทางธรรมชาติอย่างหนึ่งของมนุษย์
ยังมีผลพลอยได้เกิดขึ้นตามมาอีกด้วย



ซึ่งนักวิชาการที่ช่างสรรหาเรื่องวิจัยระบุว่า ผลพลอยได้จากการมีเพศสัมพันธ์ สะท้อนออกมาทางกระบวนการทางชีววิทยา ถ้าใช้คำว่าผลพลอยได้ ก็ต้องมีความหมายในแง่บวก เช่น เซ็กส์ช่วยลดความอ้วน เซ็กส์ช่วยบำรุงความงาม ช่วยแก้ปวดหัวและอาการแพ้ ช่วยประหยัด…ไม่ต้องซื้อน้ำหอม เซ็กส์ทำให้ผมนุ่มเป็นเงางาม เป็นต้น ซึ่งเขารวมเรียกว่า คุณูปการของเซ็กส์ ไว้ดังนี้...


1. เซ็กส์คือการบำรุงความงาม การทดลองทางวิทยาศาสตร์ พบว่าขณะผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์ เธอจะหลั่งฮอร์โมนเอสโตรเจนออกมาปริมาณมาก ซึ่งทำให้เส้นผมเป็นเงางามและผิวพรรณนุ่มนวล

2. เพศสัมพันธ์ที่อ่อนโยนและผ่อนคลาย ช่วยลดการอักเสบทางผิวหนัง เช่น สิวและผื่นต่าง ๆ เหงื่อที่ไหลออกมาเป็นตัวชะล้างรูขุมขน ทำให้ผิวผ่องใส

3. เพศสัมพันธ์ช่วยเผาผลาญแคลอรี ที่คุณกินเข้าไปช่วงมื้อค่ำอันโรแมนติก

4. เซ็กส์คือการออกกำลังกายที่ปลอดภัยที่สุด ทั้งช่วยยืดเส้นยืดสายและทำให้กล้ามเนื้อตึงในทุก ๆ ส่วนของร่างกาย อีกทั้งน่าสนุกกว่าจ๊อกกิ้งหรือว่ายน้ำสัก 20 เที่ยวเป็นไหน ๆ แถมยังไม่ต้องใช้รองเท้ากีฬาแพงๆ

5. เซ็กส์ช่วยลดความตึงเครียดได้ดียิ่ง กิจกรรมทางเพศช่วยทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนดอร์ฟินส์ในกระแสเลือดทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น

6. มีเซ็กส์บ่อยๆ คุณยิ่งได้รับสารเคมีที่ชื่อ ฟีโรโมนส์ (Pheromones) มากยิ่งขึ้น

7. กลิ่นตัวที่ถูกขับออกมา ขณะมีความต้องการทางเพศ เป็น "น้ำหอม" ที่ช่วยกระตุ้นให้เพศตรงข้ามคึกคักได้อย่างเหลือเชื่อ

8. จูบกันทุกวันลดอาการฟันผุ การจูบกระตุ้นน้ำลายให้ขับน้ำลายออกมา จึงช่วยชะล้างฟันของคุณให้สะอาด

9. เซ็กซ์แก้ปวดหัว ตลอดกระบวนการทางเพศจะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดซึ่งไปปิดกั้นหลอดเลือดในสมองไว้

10. ร่วมเพศบ่อย ๆ ช่วยแก้อาการคัดจมูก เพราะเซ็กส์เป็นยาแอนตี้ฮิสตามีนจากธรรมชาติ แก้อาการแพ้ฝุ่นแพ้ละอองได้ดี

11. เซ็กส์จะเป็นยานอนหลับที่มีประสิทธิภาพดีกว่า แวเลี่ยม (Valium) หลายเท่า ถ้าคุณสามารถ มีเซ็กส์เกิน 5 ครั้งในหนึ่งคืน (ถ้าไม่สามารถ ห้ามทำเด็ดขาด)


เพื่อ ให้ได้สิ่งที่เรียกว่า "ผลพลอยได้" จึงต้องมีเซ็กส์ตามสมควร อย่าถึงกับต้องหักโหม เพราะนั่นจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าโชคดีในเรื่องเพศ


10 อาหาร...เสริมพลังทางเพศ

10 อาหาร...เสริมพลังทางเพศ

เชื่อหรือไม่ว่า ผักและผลไม้ที่เราเลือกทานกันทุกวันนี้ มีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างความต้องการทางเพศ หรือเรียกสั้นๆ ว่า เซ็กซ์ ได้ดีเทียบเท่ากับ ไวอากร้า ทีเดียว


เซเลรี่
ผักตระกูลคึ่นช่ายแบบนี้ แม้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมหรือรู้จักของคนไทยเท่าไหร่ แต่สรรพคุณกลับไม่น่ามองข้าม เพราะเซเลรี่มีสาร แอนโดรสเตอโรน (Androsterone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นอารมณ์ทำให้ทั้งชายและหญิงที่ได้ลิ้มลองรสชาติของเซเลรี่ เคลิบเคลิ้มได้ตามๆกัน

หอยนางรมสด
เป็นที่ทราบกันอยู่นานนมแล้วว่า ทานหอยนางรมแล้วคึก เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะว่าหอยมีธาตุสังกะสี ที่เพิ่มจำนวนสเปิร์มและฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน นอกจากนั้นในหอยนางรมตัวขาวๆ ยังมีสาร โดพามิน (Dopamine) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยเพิ่มความสนุกในการมีเซ็กซ์ ดังนั้นนานๆ ทีอย่าลืมป้อนหอยนางรมสดให้หวานใจคุณบ้างนะ

กล้วย
ประกอบไปด้วยเอนไซน์ Bromelain ที่เชื่อว่าสามารถเพิ่มสัญชาติญาณทางเพศให้ผู้ชายได้ นอกจากนั้นกล้วยผลยาวๆ นี้ยังมีโซเดียม และวิตามิน บีรวม ที่เพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย ส่วนจะทานกล้วยอย่างไรให้เร้าใจ คงไม่ต้องแนะ เพราะผู้หญิงมักเรียนรู้วิธีการทานกล้วยให้ยั่วยวนได้ง่ายๆ

อโวคาโด
ผลไม้รูปร่างประหลาดมีส่วนผสมของกรด โฟลิค ที่ช่วยระบบเผาผลาญโปรตีน ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย นอกจากนั้นยังมีวิตามินบี 6 และโปแตสเซี่ยม ที่ช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศให้ทั้งชายและหญิง วิธีทานอโวคาโด ง่ายๆ แค่ผ่าครึ่งผลแล้วตักเนื้อในด้วยมือของคุณเอง แล้วให้หญิงสาวของคุณขบกินเบาๆ

อัลมอนต์ หรือเมล็ดถั่วต่างๆ
เมล็ดมหัศจรรย์เหล่านี้มีสารที่ช่วยเพิ่มฮอร์โมนให้กับผู้ชาย และกลิ่นหอมของมันยังช่วยเพิ่มความเสน่หาให้คุณทั้งสองได้ด้วย ดินเนอร์มื้อนี้อย่าลืมเทียนหอมกลิ่นอัลมอนต์เพิ่มบรรยากาศ พร้อม ไอศครีมผสมอัลมอนต์ปิดท้ายซักถ้วย

มะม่วง, พีช, สตรอเบอร์รี่
อะไรจะหวานฉ่ำเท่ากับกัดกินผลไม้เหล่านี้ ผลไม้เหล่านี้มีรูปร่าง ความฉ่ำที่เพิ่มอารมณ์ปรารถนาและยังมีวิตามินซีเพิ่มความสวยใสให้ผิวด้วย ลองชโลมน้ำผลไม้เหล่านี้ลงบนคู่รักของคุณ แล้วเช็ดมันออกด้วยริมฝีปากบางเฉียบของคุณ หรือ หั่นผลไม้เหล่านี้เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วป้อนสาวเจ้าตอนที่เธอกำลังทำท่าออรัลเซ็กซ์ก็เข้าท่าไม้น้อย

ไข่ รวมทั่งไข่นก ไขปลา
มีวิตามินสูง ทั้งบี 5 และบี 6 ที่ช่วยปรับระดับของฮอร์โมนและลดความเครียด ซึ่งทั้งสองนี้มีผลต่อความต้องการทางเพศ อยากเปลี่ยนรสชาติการบำรุงด้วยไข่ดิบ ลองเปลี่ยนมาลิ้มรสไข่ปลาคาเวียร์ จิบกับแชมเปญ คงเพิ่มสีสันกับกิจกรรมที่คุณทั้งคู่จะเริ่มขึ้นได้ไม่น้อย

กระเทียม
แม้กลิ่นจะทำร้ายบรรยากาศสวยๆของคุณ แต่ประสิทธิภาพของกระเทียมที่มีสาร อัลลีซิน (Allicin) ที่ช่วยเพิ่มความดันเลือด ให้สูบฉีด เพิ่มความต้องการทางเพศ สำหรับใครที่ไม่ชอบกลิ่นกระเทียมสามารถเลือกทานแบบแคปซูลแทนได้

ชอกโกแลต
ของว่างสุดโปรดของสาวๆ ที่มีสาร Theobromine คล้ายคาเฟอีน และ Phenylethylamine สารเคมีที่เชื่อว่าเมื่อทานแล้วสามารถผลิตความรู้สึกว่า “รัก” ให้ผู้ที่ทานได้ นอกจากนั้นชอคโกแลตยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ (Anti-oxidants) ที่ช่วยป้องกันโรคและดีต่อสุขภาพโดยรวม


แม้อาหารเหล่านี้มีส่วนเสริมสร้างความรักและเซ็กซ์ของคุณให้มีสีสัน แต่อย่าลืมว่าอาหารหรือผลไม้บางชนิดอาจไม่ดีต่อสุขภาพของคนทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารที่เพิ่มความดันโลหิต คนที่เป็นโรคความดันสูง ต้องระวัง!!!


วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552

ทะเลาะอย่างไรไม่ให้แตกหัก





ช่วย ไม่ได้นี่นา บางครั้งก็โมโหจนอยากกรี๊ดให้บ้านกระเจิง เก็บกดอัดไว้ในอกเพราะต้องการรักษาน้ำใจอีกฝ่ายมาก็มาก คราวนี้ทนไม่ไหวจริงๆ ขอเปิดศึกสักตั้ง แต่เพื่อไม่ให้ถึงขั้นแตกหัก ควรดำเนินการอย่างชาญฉลาดเพื่อให้ความสัมพันธ์ยืนยาวต่อไป

เคารพซึ่งกันและกัน
ขั้น แรกของการราวีกันอย่างได้ผลคือ ต้องทะเลาะแบบให้เกียรติกัน ไม่ใช่ขุดโคตรเหง้าวงศ์ตระกูลสาวไส้กันถึงบรรพบุรุษเจ็ดชั่วโคตร หลีกเลี่ยงการดูถูกดูแคลน การดุด่าว่ากล่าวตำหนิติเตียน หรือการทำให้อีกฝ่ายอับอายขายหน้าประชาชี เพราะการฟาดฟันกันตัวต่อตัวแบบนี้มักเป็นจุดเริ่มต้นของความเสียหายย่อยยับ ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น และห่างไกลจากคำว่าติเพื่อก่อหลายร้อยโยชน์

แทน ที่จะกล่าวประนามสาดเสียเทเสีย สู้หาเรื่องยกยอสรรเสริญเวลาเขาทำดีจะสวยกว่า เช่น เวลาเขามาสาย ทั้งที่เราอยากจิกกัดเขาให้สาแก่ใจ เราควรระงับอกระงับใจ แล้วเอ่ยชมอย่างปลาบปลื้มเวลาเขามาตรงเวลา กลเม็ดแบบนี้จะช่วยให้เขาชอบมาทันเวลาเพราะอยากได้คำชม แทนที่จะฝืนใจมาให้ทันเพราะกลัวถูกด่า

พูดให้ตรงจุดอย่าเลื่อนเปื้อนไปเรื่องอื่น
ตอน แรกก็พูดกันดีๆ ไปๆมาๆชักเครื่องร้อน เพราะเริ่มเอ่ยประโยคต้องห้ามอย่างเช่น “คุณไม่เคยอย่างโน้น…..อย่างนี้” ประโยคแบบนี้มีแต่พาให้บรรยากาศตึงเครียดเปล่าๆ เคล็ดลับมีง่ายๆ เหนือสิ่งอื่นใด ควรระลึกเอาไว้ให้ขึ้นใจว่า อดีตก็ควรทิ้งไว้ในอดีต อย่าเอามามั่วกับปัจจุบัน ทันทีที่เริ่มเปิดศึกก็ควรจดจ่ออยู่แต่เหตุการณ์เฉพาะหน้าและเรื่องที่ ตั้งใจสะสางเท่านั้น ห้ามเผลอเจาะเวลาหาอดีตให้บรรยากาศลุกลามใหญ่โตเกินกว่าที่ตั้งใจไว้ การถกกันหลายหัวข้อ รังแต่จะฉุดให้เราออกนอกลู่นอกทาง ไกลจากหนทางแก้ปัญหาจนกู่ไม่กลั

ตั้งกฎ
การตั้งกฎหรือ ตั้งขอบเขตเป็นการดับไฟแต่ต้นลม ช่วยให้เรื่องราวไม่ลุกลาม บางคู่ตั้งกฎไว้น่ารัก อย่างเช่น ทุกครั้งที่ร่ำๆจะทะเลาะกันก็จะออกไปเดินเล่นด้วยกัน หรือใช้วิธีหลีกลี้หนีหน้ากันไปสักชั่วโมงสองชั่วโมง แล้วค่อยกลับมาเจอหน้ากันเมื่อรู้สึกว่าอารมณ์ค่อยลดความระอุลงแล้ว ลองคิดหาวิธีดูก็แล้วกัน รักชอบแบบไหนเลือกดู ขอรับรองว่าเคล็ดลับนี้ไม่มีอันตรายใดๆทั้งสิ้น

ควบคุมความโกรธ
ต้อง ยอมรับว่า เราทุกคนมิใช่นางฟ้านางสวรรค์ หรือนางเอกละครบางช่องที่ไม่เค้ยไม่เคยแสดงอารมณ์โกรธ เอาแต่สะอื้นฮักๆ ร่ำไห้กระซิกๆ เราคือปุถุชนคนธรรมดาที่บางครั้งเผลอน็อตหลุด หมดความอดทนจนระเบิดอารมณ์เข้าใส่กัน หากศึกครั้งนี้เริ่มด้วยการตะเบ็งเสียงว้ากเข้าใส่กัน คงต้องท่องเอาไว้ในใจว่า ให้รีบปลีกวิเวกหามุมสงบ ก่อนที่จะเผลอพูดสิ่งที่ทำให้เสียใจในภายหลัง แล้วค่อยกลับมาเจอหน้ากันใหม่ โปรดจำเอาไว้ว่า สิ่งที่ตามมาหลังเสียงกรี๊ดคือตัวการสร้างความเจ็บช้ำให้ทุกฝ่าย