ความรักคืออะไร และ แบบไหนเล่าจึงจะเรียกได้ว่ารัก
หากมีใครสักคนนึกสนุก อยากทดสอบเชาว์ ของเราด้วยคำถามที่ว่า“ความรักคืออะไร และ “แบบไหนเล่าจึงจะเรียกได้ว่ารัก”ด้วยพิษสงของคำถามที่ดูคล้ายๆว่าจะง่ายนักหนาในข้อนี้อาจทำให้เราตีลังกาปวดขมอง ไปสิบแปดตลบกว่าๆเพราะคิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าจะหานิยามใดมาจำกัดขอบเขตของคำว่า “รัก”ได้อย่างเหมาะสมลงตัว จนฟังแล้วต้องเอาฝ่ามือตบโต๊ะดังปัง!พร้อมกับพูดออกมาดังๆว่า “นี่แหละใช่เลย!!!”ความพยายามที่จะหาคำตอบในครั้งนี้เสมือนหนึ่งเราเป็นตากล้องมือสมัครเล่นที่มีแต่กล้องถ่ายรูปอันกระจ้อยร่อยแต่อาจหาญ อยากที่จะบันทึกภาพความสวยงามของมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ ด้วยการกดชัตเตอร์เพียงครั้งเดียว !หากตอบไปว่า “รักคือการเสียสละ”น้องๆนุ่งๆ หลายๆชีวิต คงบ่นกันขรม และติเพื่อหมิ่นว่ามันเชยไปหน่อยสำหรับพ.ศ.นี้งั้นลองใหม่!!รักคือความเข้าใจ อืม...ม มันก็จริงอยู่นะแต่ดูยังไงๆ มันก็แค่เหล้าใหม่ในขวดแตก สำหรับใครบางคนอยู่ดีเอาเป็นว่า เรามาฟังเรื่องของใครบางคนสมัยที่เขายังเป็นเด็กน้อยตัวเท่าลูกแมวกันดีกว่าใครคนนั้นมีชื่อว่า ต้อมแล้วเขาก็มีน้องชายที่แสบแบบกินกันไม่ลงชื่อ ตั้ม
เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าย้อนไปประมาณสิบกว่าปีที่แล้วในวันที่ ต้อมและตั้ม สองเสือหัวแข็งพึ่งลืมตาขึ้นมาสร้างความปั่นป่วนให้โลกใบนี้ ได้ไม่นานนักทุกๆเช้าเย็นเพื่อนบ้านแถวนั้น มักจะได้ยินเสียงเจี้ยวจ้าวของเด็กตัวเล็กๆสองคนอยู่เสมอต้อมเล่นสนุกกับน้อง ตั้มเล่นสนุกับพี่บางครั้งก็ทะเลาะกัน งอนกันจนแทบไม่มองหน้าแต่อีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ก็วิ่งไล่จับกันเหมือนเคยคุณแม่ของต้อม และตั้ม หมั่นปลูกฝังความรักให้ลูกทั้งสองอยู่ตลอดเวลา“เราสองคนเป็นพี่น้องกัน ต้องรักกันให้มากๆนะจ๊ะ”“คร๊าบ...บ” สองหนุ่มจอมป่วนรับปาก ก่อนวิ่งแจ้นออกไปเล่นไล่จับกันต่อเด็กตัวน้อยๆทุกคนมักมีสิ่งที่ชื่นชอบเหมือนๆกันนั่นคือ ลูกกวาดขนมหวานที่อุดมไปด้วยน้ำตาล และสีผสมอาหาร ตั้มผู้เป็นน้องชอบลูกกวาดเป็นชีวิตจิตใจเขาติดลูกกวาดงอมแงม ราวกับติดยาเสพติด จำเป็นต้องให้กระพุ้งแก้มและลิ้นรับรสทำงานอยู่ตลอดเวลาคุณแม่จอมเฮี้ยบ คอยกำชับเป็นหนักหนาว่าอย่ากินลูกกวาด “แม่ห้ามไม่ให้ลูกกินลูกกวาดอีกแล้วนะ ลูกกวาดพวกเนี้ยกินบ่อยๆฟันก็จะฟันผุพอฟันผุแล้วก็ต้องไปหาหมอฟัน ไปให้หมอเขาเอาคีมใหญ่ๆมาถอนฟันให้เจ็บๆ ลูกกลัวมั้ย ถ้ากลัวก็อย่ากิน ต้อมต้องคอยห้ามน้อง อย่าให้น้องกินอีกนะลูก!”คุณแม่พร่ำบอกแทบทุกวันค่ำเช้า แต่เด็กก็คือเด็ก !แม้ว่าสองหนูน้อยจะกลัวหมอฟันมากเพียงใด แต่ก็ยังกินลูกกวาดเรื่อยมาจนกระทั่งวันหนึ่งคุณแม่จับได้ว่าสองพี่น้องเอาเงินค่าขนม ไปซื้อลูกกวาดกินจนหมดเกลี้ยงเธอเหลืออด และเอือมระอากับพฤติกรรมของลูกชาย จึงเรียกทั้งสองเข้ามาแล้วจัดการลงโทษต้อมเพียงคนเดียว ในฐานะพี่ชายที่ไม่ยอมห้ามปรามน้องซ้ำยังร่วมกระทำผิดไปอีกคนด้วยความที่แม่เกิดบันดาลโทสะ เธอจึงตีอย่างไม่ยั้ง ไม้เรียวอันเล็กๆ เมื่อกระทบกับขาอ่อนๆ มันช่างเจ็บเหลือใจต้อมร้องลั่นเพราะความเจ็บปวด โดยที่ตั้มผู้เป็นน้องยืนน้ำตาซึมอยู่ใกล้ๆ“อยากฟันผุนักใช่มั้ย แม่บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่ากินลูกกวาดพวกนี้ เตือนเท่าไรก็ไม่ฟัง ต้อม ! เราเป็นพี่ทำไมไม่ห้ามน้อง กลับไปกินด้วยกันอีก ห๊า !” ต้อมผู้เป็นพี่สะอึกสะอื้นตอบกลับมา “หนูไม่ชอบกินหรอก แต่ที่กินเพราะ ไม่อยากให้น้องไปหาหมอฟันคนเดียว”ความรักของพี่น้อง อาจทำให้ฟันผุไปบ้างตามประสา แต่มันก็คุ้มค่าเหลือเกินและนี่ก็คือปูมหลังอันหวานละไมของต้อมกับตั้ม ที่เราๆมีโอกาสได้ฟังจากคำบอกเล่าของแม่ใจดีผู้สวมบทแม่ใจร้าย เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว“รักคืออะไร?”เราคงต้องกลับมาถามตัวเองอีกครั้งอย่างตั้งใจถ้าจะตอบคำถามในข้อนี้ให้ง่ายและชัดเจนที่สุดเห็นทีจะต้องตอบแบบกำปั้นทุบดิน “รักก็คือรัก”ความรักไม่มีวันเป็นอย่างอื่นนอกจากเป็นตัวของมันเองแม้ไม่เคยมีใคร ได้ยลโฉมของความรักว่าสวยหล่อขนาดไหนแต่ก็เชื่อว่าเราทุกคนสามารถรู้สึกถึงมันได้หากเรายังมีหัวใจ! เหลือพอรู้สึกในวันที่เราเจ็บ แล้วมีใครบางคนนั่งอยู่ข้างๆแม้เขาคนนั้นไม่ได้เอ่ยปากแต่เราก็รับรู้ได้ว่าเขาเจ็บไปพร้อมๆกับเรารู้สึกในวันที่เราตื้นตัน แล้วมีใครสักคนนั่งฉีกยิ้มอยู่ไกลๆแม้เขาคนนั้นไม่ได้เอ่ยปากแต่เรารับรู้ได้ว่าเขาสุขล้นยิ่งกว่าตัวเราเสียอีกสำหรับใครๆหลายๆคน นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่า... ความรักแล้วคุณล่ะ “ความรักคืออะไร?”--
ขอขอบคุณบทความดีที่ได้รับจากเมล์ นางมารร้าย
เห็นว่าน่าสนใจ จึงนำมาเผยแพร่ต่อไป
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น